Wednesday 24 September 2014

รวมฮิต #AumSkyExits #Selfie ในตอนทำงาน อย่างมันตามสไตล์ 55555+

รวมฮิต #AumSkyExits #Selfie ในตอนทำงาน อย่างมันตามสไตล์

 

Sunday 14 September 2014

#ณเดช อายุ 15 มาจากขอนแก่น เข้าเรียนวิชาเข้าวงการเป็นดารากับพี่เอศุภชัย

อายุ 15 มาจากขอนแก่น เข้าเรียนวิชาเข้าวงการเป็นดารากับพี่เอศุภชัย อายุ 18 ดังทะลุฟ้า หาเงินได้ "ล้านแรก" และ #ใช้ชีวิตในกองถ่าย มาตลอดไม่มีวันว่าง อายุ 22 เรียนจบ ม.รังสิต ได้ เกียรตินิยม สาขาภาพยนตร์และภาพถ่าย บางที ณเดช มีชั่วโมงบิน ในเรื่องการถ่ายทำ มากกว่า อาจารย์ ที่สอนวิชาภาพยนตร์เค้านะ คนอย่าง #ณเดช ถ้าจะมี "พันล้าน" ข้าพเจ้าไม่แปลกใจเลย อย่าว่าแต่ #เกียรตินิยม

#เรื่องดี #คิดดี เด็กทุกคนมี “สิ่งวิเศษ” ติดตัวมาทุกคน : ใครมีลูกควรอ่านนะ

#เรื่องดี #คิดดี เด็กทุกคนมี “สิ่งวิเศษ” ติดตัวมาทุกคน : ใครมีลูกควรอ่านนะ 

อย่าได้ “พยายาม” ปั้นลูกเราให้เหมือนลูกใคร 
อย่าได้ “ขีดเส้น” ให้ลูกเราเดินตามลูกใคร 
อย่าได้ “ตั้งเป้า” ให้ลูกเรามีจุดหมายแบบใคร 
อย่าได้ “บังคับ” ให้ลูกเราเป็นอย่างใคร

เด็กทุกคนมี “สิ่งวิเศษ” ติดตัวมาทุกคน 
และ “สิ่งวิเศษ” เหล่านั้นก็ไม่ได้เหมือนกันทุกคน 
เรามีหน้าทีเพียง เฝ้ามองและค้นหา “สิ่งวิเศษ” ในตัวลูกเราให้เจอ 
และสนับสนุน ส่งเสริม “สิ่งวิเศษ” นั้น

อย่าพยายามกดลูกลงพิมพ์ ให้ออกมาเป็นบล็อคเดียวกัน

ลูกใครเรียนอันนี้แล้วดี ก็พยายามจะส่งลูกเราไปเรียนบ้าง
ลูกใครทำได้แบบนี้ ก็พยายามกระตุ้นให้ลูกเราทำได้แบบนั้นบ้าง
ลูกใครคิดแบบนั้น ก็พยายามจะบอกให้ลูกเราคิดแบบเดียวกับเขาบ้าง

แบบนั้นไม่ใช่การค้นหา “สิ่งวิเศษ” ในตัวลูกเรา 
แต่เรากำลังพยายาม “ลบสิ่งวิเศษ” ที่ลูกเรามี
แล้วยัดอย่างอื่นที่ได้ดั่งใจเราเข้าไปแทนที่

ลูกเรา ไม่ต้องเหมือนลูกใครก็ได้
ลูกเรา ไม่ต้องเก่งเท่าลูกใครก็ได้
ลูกเรา ไม่ต้องคิดเหมือนลูกใครก็ได้
ลูกเรา ไม่ต้องมีเป้าหมายเดียวกับลูกใครก็ได้

หรือแม้แต่ ลูกเราไม่ต้อง“เหมือน” เรายังได้เลย

ขอแค่ให้เค้าเป็นในสิ่งที่เค้า “ตั้งใจจะเป็น”
และอยู่ในขอบเขตของความดีงาม นั่นหละพอแล้ว ..

เพราะเราคือผู้ให้ชีวิต เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตลูก 
เรามีหน้าที่ประคับประคอง ไม่ใช่เอาเชือกผูกแล้วลากลูกให้เดิน 
ชี้แนะ บอกทาง แต่ไม่ใช่ “สั่งให้เดิน”

เริ่มต้นเฝ้ามอง “สิ่งวิเศษ” ในตัวลูกของเรากันดีกว่า 
หยุดเฝ้ามอง “สิ่งวิเศษ” ในตัวลูกคนอื่น 
แล้วพยายามจะนำสิ่งเหล่านั้นมาใส่ในตัวลูกเราให้หมดทุกอย่าง 
เพื่อให้เหมือนลูกคนอื่นเป็น

เด็กสวยงามเสมอ .. ถ้าได้ยิ้มอย่างมีความสุข เชื่อไหม?



บทสนทนาระหว่างดินสอกับยางลบ.. #เรื่องดี

#ไลน์แชร์

บทสนทนาระหว่างดินสอกับยางลบ..

ดินสอ: ฉันรู้สึกเสียใจนะ...

ยางลบ: ทำไมล่ะ? เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา...

ดินสอ: ฉันเสียใจที่ทำให้เธอเจ็บเพราะฉัน ทุกครั้งที่ฉันทำผิดพลาด เธอจะอยู่เคียงข้างและคอยลบมันไปเสมอ แลัวตอนที่เธอลบความผิดพลาดนั้น เธอเองได้สูญเสียส่วนหนึ่งของตัวเองไปทุกที เธอเล็กลง เล็กลง ในแต่ละครั้ง.... 

ยางลบ: นั่นมันก็จริง แต่ฉันไม่ได้สนใจเรื่องนั้นนะ เธอเข้าใจไหมว่าฉันเกิดมาพร้อมกับหน้าที่ที่ต้องทำ ฉันเกิดมาเพื่อช่วยเธอทุกครั้งที่เธอทำผิด และถึงแม้วันหนึ่งฉันต้องจากไป เธอก็ยังสามารถหายางลบใหม่มาแทนที่ แต่สิ่งสำคัญ คือ ฉันมีความสุขกับหน้าที่ของฉัน โปรดอย่าเสียใจ โปรดอย่าเป็นห่วง ฉันไม่อยากเห็นเธอเศร้า... 

บทสนทนานี้คงทำให้หลายคนคิดได้หลายอย่าง

คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็เหมือนกับยางลบ อยู่เคียงข้างลูกๆที่เป็นเหมือนดินสอ ไม่ว่าลูกจะไปทำอะไรผิดพลาดมา ก็ยินดีจะจัดการ บรรเทาความผิดพลาดของลูกเสมอ แม้จะเจ็บปวด แม้จะตัวเล็กลง แก่ลงไปทุกวันและในวันหนึ่งก็ต้องจากไป ซึ่งอันนี้ต่างจากยางลบตรงที่....ไม่มีวัน ไม่มีอะไรมาทดแทนได้....

และคนเราถ้ารู้จักหน้าที่ ได้ทำเต็มที่ มีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่เสียใจ


ความผิดพลาดในหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตคนเรา ล้วนเกิดจาก "ความเข้าใจผิด"

ความผิดพลาดในหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตคนเรา
ล้วนเกิดจาก "ความเข้าใจผิด"
จดหมายเขียนส่งให้แม่
ภรรยาของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุมา4ปีแล้ว 
เขารู้สึกเคว้างคว้าง ไม่รู้จะทำหน้าที่ของพ่อและแม่ให้ลูกชายได้อย่างไร?
ค่ำวันเสาร์ หลังจากที่เขากลับมาจากทำงาน เขาทักทายลูกไม่กี่คำ
ก็เข้าห้องอยากนอนด้วยความเพลีย 
หลังจากถอดสูทออกแล้ว ก็ล้มตัวลงไปนอนบนเตียง 
เพล้งเสียงเหมือนชามอะไรแตกสักอย่าง 
เมื่อเขาเปิดผ้าห่มดู ชามบะหมี่กับจานแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งน้ำและเส้นหกเลอะผ้าห่มและที่นอน
เขาหยิบไม้แขวนเสื้อเดินออกไปหิ้วแขนลูกชายที่กำลังเล่นของเล่น 

จากนั้นก็ตีไปที่ก้นของลูกด้วยความโมโห

ลูกชายร้องไห้ด้วยความเจ็บ เขาถามลูกออกไปด้วยความโมโห
ทำไมเอาบะหมี่ไปกินบนเตียงพ่อ?”
ลูกชายร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกกับเขาว่า

ข้าวที่พ่อหุงไว้เมื่อเช้าผมกินหมดแล้ว ตอนเย็นนี้ผมหิวข้าว แต่พ่อยังไม่กลับมา 

ผมก็เลยหามาม่าจากในครัว แต่พ่อบอกผมว่าไม่ให้ยุ่งกับแก๊ส 
ผมก็เลยเอาน้ำอุ่นจากตู้น้ำดื่มมาชงมาม่า 
ผมกินไปชามหนึ่งแล้ว อีกชามหนึ่งผมชงให้พ่อ 
แต่ผมกลัวว่ามันจะเย็นไปซะก่อนที่พ่อจะกลับมา ผมก็เลยเอาผ้าห่มคลุมไว้ 
ตอนที่พ่อกลับมาผมมัวแต่เล่น จึงลืมบอกพ่อ ผมขอโทษครับพ่อ!
เขาปล่อยมือลูกและรีบหันหน้าหนีเดินไปที่ห้องน้ำ เมื่ออยู่ในห้องน้ำ 
เขาก็เปิดน้ำเสียงดังเพื่อกลบเสียงร้องไห้โฮของเขา 

เขานั่งอยู่ในห้องน้ำครู่ใหญ่ เมื่อออกมาจากห้องน้ำ 

เขาเดินไปที่ห้องของลูกชาย เห็นลูกชายนอนหลับอยู่บนเตียง
พร้อมกับกอดรูปของแม่อยู่ในอ้อมกอด ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา 
จากเหตุการณ์ในวันนั้น เขาสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลลูกให้ดีกว่านี้ 

แต่เมื่อลูกชายเข้าเรียนชั้นประถมได้ไม่นาน เขาก็ตีลูกชายอีกครั้ง

ช่วงก่อนวันแม่ไม่กี่วัน วันนั้นคุณครูประจำห้องก็โทรศัพท์มาบอกเขาว่าลูกชายไม่ได้มาเรียน 
และวันนี้ก็มีการแสดงของเด็กนักเรียนด้วย 

เขารีบลางานเพื่อไปตามหาลูกชาย เขาเดินตามหาลูกชายแถวบริเวณหน้าโรงเรียนแต่ก็ไม่เจอ

 เมื่อเดินไปที่สวนสาธารณะ ก็เห็นลูกชายกำลังยืนอยู่หน้าเครื่องเล่นสไลเดอร์ 
เขาโมโหลูกชายมาก จึงตีลูกชายอีกครั้ง ครั้งนี้ลูกชายไม่ได้แก้ตัวอะไรใดๆ
 เอาแต่กล่าวคำขอโทษเขาเท่านั้นเอง
หลังจากนั้นหนึ่งปี เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากบุรุษไปรษณีย์ 
ว่าลูกชายของเขานำจดหมายปึกใหญ่ที่ไม่มีที่อยู่ใส่ไว้ที่ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน 
และช่วงนี้ก็เป็นช่วงปีใหม่ เจ้าหน้าที่ไม่มีเวลาว่างมาสนุกกับสิ่งที่ลูกชายเขาทำหรอก 

เมื่อเขาทราบดังนั้น ก็รีบบึ่งรถไปที่ไปรษณีย์เพื่อนำจดหมายปึกใหญ่นั้นกลับมา
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็โยนจดหมายปึกนั้นให้ลูกชายดู
ทำไมลูกทำอย่างนี้?”
ลูกชายเมื่อเห็นจดหมายก็ร้องไห้
นี่เป็น
เขาได้ฟังก็สะท้อนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงถามลูกชายออกไปว่า
ทำไมส่งครั้งเดียวตั้งเยอะตั้งแยะ?”
จดหมายปึกนี้ผมเขียนมาตั้งแต่แม่ตาย แต่เมื่อก่อนผมยื่นจดหมายใส่ตู้ไม่ได้ 

เพราะผมยังตัวเล็ก ตอนนี้ผมสูงพอที่จะหย่อนจดหมายใส่ตู้ได้ 
ผมก็เลยเอาจดหมายที่เขียนถึงแม่ไว้ทั้งหมดส่งให้แม่อ่านพร้อมๆกัน!
เมื่อเขาได้ฟังลูกบอก น้ำตาก็คลอเบ้าตา ไม่รู้จะบอกลูกยังไงดี เขาจึงก้มตัวลงไปกอดลูกไว้
แม่ของลูกอยู่บนสวรรค์แล้ว วันหลังถ้าจะเขียนจดหมายถึงแม่ 

พ่อจะเผาให้นะ จดหมายจะได้ส่งไปบนสวรรค์ให้แม่ได้อ่าน
ค่ำวันนั้น เมื่อส่งลูกชายเข้านอนแล้ว เขาจึงหยิบจดหมายปึกใหญ่นั้นมาอ่าน 

มีจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง ที่ทำให้เขาสะเทือนใจมาก
แม่ครับ ผมคิดถึงแม่
วันนี้ ที่โรงเรียนมีการแสดงของแม่ลูก ผมไม่มีแม่ เลยไม่ได้แสดงด้วย 

ผมไม่ได้บอกกับพ่อ กลัวว่าพ่อจะคิดถึงแม่ แต่พ่อก็ลางานมาตามหาผม 
ผมไม่อยากให้พ่อรู้ว่าผมเหงา 
ผมเลยแสร้งไปเล่นที่สวนสนุก แม้ว่าพ่อจะด่าผมตีผม แต่ผมก็ไม่ได้เล่าความจริงให้พ่อฟัง

แม่ครับ ผมเห็นพ่อนั่งกอดรูปของแม่ทุกวันเลย ผมรู้ว่าพ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกับผม 

แม่ครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่าเสียงของแม่เป็นยังไง? แม่มาเข้าฝันผมหน่อยได้ไหม 
ขอให้ผมได้เห็นหน้าแม่อีกสักครั้ง ขอให้ผมได้ฟังเสียงของแม่อีกสักครั้งได้ไหมครับ?

ลุงข้างบ้านบอกผมว่า หากเราคิดถึงใคร ก่อนนอนให้กอดรูปของเขาไว้ที่อก 

แล้วเราจะฝันถึงเขาคนนั้น แต่แม่ครับ ผมกอดรูปแม่ไว้กับอกทุกวัน 
ทำไมแม่ไม่มาเข้าฝันผมเลยละครับ!

เมื่อเขาอ่านจบ เขาก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้ดังออกมากลัวลูกได้ยิน
 เขาเอาแต่ถามตัวเองว่า จะทำอย่างไรถึงจะทดแทนความรู้สึกกำพร้าแม่ของลูกได้? 
…………………..
เมื่อเราเป็นผู้สร้างลูกให้เกิดมาบนโลกนี้ เราต่างมีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตที่เกิดขึ้นมานั้นร่วมกัน
หากคุณเป็นแม่ อย่าได้เอาแต่ทำโอที 
หากคุณเป็นพ่อ อย่าเอาแต่เลิกงานแล้วไปสังสรรค์กับมิตรสหาย 
ขอให้คุณทั้งหลายดูแลสุขภาพให้ดี คุณจึงจะมีโอกาสได้อยู่ดูแลลูก 

ได้เห็นการเจริญเติบโตของลูก ได้เห็นความสำเร็จของลูกไปพร้อมๆกัน 
อย่าได้ทำแต่งานหาแต่เงินจนลืมดูแลสุขภาพ มีชื่อเสียงเงินทองแต่สุขภาพทรุดโทรม 

แล้วจะมีประโยชน์อะไร!
อย่าได้เอาแต่คิดว่า รอฉันมีเงินก่อนแล้วค่อยทำอันโน้นทำอันนี้! 
เพราะไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้ว่า นาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น? วันหน้าจะมีได้อีกสักกี่ครั้ง !

#เรื่องดีมาก #ความรักที่แท้จริงคือการยอมรับทุกสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน



#เรื่องดีมาก #ความรักที่แท้จริงคือการยอมรับทุกสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

มันเป็นตอนเช้า เวลาประมาณ 08.30 น. ที่วุ่นวายเอาการ

เมื่อสุภาพบุรุษสูงอายุท่านหนึ่งในวัย 80 กว่า มารับบริการให้แพทย์ตัดไหม
จากแผลที่หัวแม่มือ และบอกว่าขอให้รีบหน่อย เพราะมีนัดตอน 09.00 น. 

เมื่อผมตรวจร่างกายตามปกติเสร็จผมก็ขอให้นั่งรอ 
โดยผมรู้ว่าอย่างไรเสียก็ไม่หนีหนึ่งชั่วโมง กว่าที่จะถึงคิว

ผมเห็นสุภาพบุรุษท่านนี้ดูนาฬิกาหลายครั้งอย่างกระสับกระส่าย 
ผมว่างอยู่พอดี จึงเข้าไปดูแผลให้ เมื่อตรวจดูก็เห็นเป็นปกติ 
ผมจึงเดินไปหารือกับหมอคนหนึ่งที่ให้บริการอยู่ เอายาและวัสดุมาทำแผลให้ 

ขณะที่ตัดไหมอยู่ผมก็ถามว่า มีนัดกับหมออีกคนหรือจึงดูรีบร้อน

สุภาพบุรุษท่านนี้ตอบว่า ไม่หรอก แต่จำเป็นต้องรีบไปเนิร์ซซิ่งโฮม 
เพื่อกินอาหารเช้ากับภรรยา 

ผมก็ถามถึงสุขภาพของภรรยา ก็ตอบว่าภรรยาอยู่ที่นั่นมานานพอควรแล้ว 
และ เธอเป็นโรค Alzheimer’s

ขณะที่คุยกันผมก็ลองถามดูว่าเธอจะรู้สึกกังวลเป็นทุกข์ไหม 
ถ้าไปสายสักหน่อย สุภาพบุรุษท่านนี้ก็ตอบว่า 
เธอไม่รู้หรอกว่าผมเป็นใคร เธอจำผมไม่ได้มา 5 ปีแล้ว 

ผมรู้สึกแปลกใจจึงถามว่า ‘แล้วคุณก็ยังไปทุกเช้า ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใครก็ตาม’

สุภาพบุรุษสูงอายุยิ้มและตบเบาๆ บนมือผมและพูดว่า 

‘ถึงเธอไม่รู้จักผม แต่ผมยังรู้ว่าเธอเป็นใคร’ 

ผมต้องกลั้นน้ำตา ขณะที่เดินจากไป ขนบนแขนผมลุกชัน และคิดว่า 

‘นั่นคือความรักอย่างที่ผมต้องการที่สุดในชีวิต’

ความรักที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องของกายภาพหรือโรแมนติก 

ความรักที่แท้จริงคือ การยอมรับทุกสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 
ได้เป็นมาตลอด รวมทั้งที่จะเป็น และที่จะไม่เป็นด้วย

คนที่มีความสุขที่สุด ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีสิ่งดีที่สุดของทุกสิ่ง 
เขาเพียงทำสิ่งที่เขามีอยู่ ให้ดีที่สุด

ผมขอบอกว่า ….  
‘ชีวิตไม่ใช่เรื่องของการทำอย่างไรให้รอดจากพายุฝน 
แต่เป็นเรื่องของการจะเล่นน้ำฝนอย่างไร’

(Life is not about  how to survive the storm, but how to dance in the rain)

ห้องที่ชื่อว่า "ใจ"





ห้องที่ชื่อว่า "ใจ"


ใจ ของเรานั้น ไม่ต่างอะไรกับ
ห้องที่ว่างเปล่า เมื่อเราใส่อะไร
เข้าไปในห้องที่ว่างเปล่านั้น
สถานภาพของห้องก็จะเปลี่ยน
ไปทันที
เป็นต้นว่า เรามีห้องว่างเปล่าอยู่ห้องหนึ่ง
เมื่อเราใส่น้ำเข้าไป
ก็จะกลายเป็น ห้องน้ำ
เราใส่พระพุทธรูปเข้าไป ก็จะกลายเป็น ห้องพระ
เราใส่เครื่องมือปรุงอาหารเข้าไป ก็จะกลายเป็น ห้องครัว
เราใส่เครื่องนอนเข้าไป
ก็จะกลายเป็น ห้องนอน
เราใส่ชุดรับแขกเข้าไป
ก็จะกลายเป็น ห้องรับแขก
เราใส่บุคคลสำคัญเข้าไป ก็จะกลายเป็น ห้อง วี ไอ พี
ห้องแห่งหัวใจของเรา
ก็ไม่ต่างอะไรกับห้องว่างเปล่า
ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเลย
ทุกครั้งที่เราบรรจุอะไรเข้าไปในใจ
ใจของเราก็จะเปลี่ยนสถานภาพ
เหมือนกัน
เราใส่ความเมตตาเข้าไป ก็จะกลายเป็น คนใจดี
เราใส่ธรรมะเข้าไป
ก็จะกลายเป็น คนใจบุญ
เราใส่ความโกรธเข้าไป
ก็จะกลายเป็น คนใจร้อน
เราใส่ความเลวเข้าไป
ก็จะกลายเป็น คนใจทราม
เราใส่ความกลัวเข้าไป
ก็จะกลายเป็น คนใจเสาะ
เราใส่ความเป็นนักสู้เข้าไป ก็จะกลายเป็น คนใจสู้
เราใส่ความขาดสติเข้าไป ก็จะกลายเป็น คนใจลอย
เห็นด้วยหรือไม่ว่าใจของเรานั้น
เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเหนือกาย
เป็นสิ่งที่คอยออกแบบชีวิต
ของเราให้เป็นไปอย่างไรก็ได้
พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า
ใจเป็นนาย ใจเป็นผู้นำ ใจเป็นผู้สร้างสรรค์ ...
หรือบางทีก็ตรัสว่า
"จิตฺเตน นียติ โลโก " แปลว่า โลกหมุนไปตามใจสั่งการ
โลกในที่นี้ หมายถึง ชีวิตของเรานั่นเอง
โลกคือชีวิต จะหมุนซ้าย หมุนขวา หมุนตรง หรือหมุนเอียง 
หมุนไปข้างหน้า หรือว่าหมุนไปข้างหลัง
ทั้งหลายทั้งปวงนั้นขึ้นอยู่กับ
พฤติกรรมของใจทั้งหมดทั้งสิ้น
ใจของเราไม่ต่างอะไรกับห้อง
ที่ว่างเปล่า เราบรรจุอะไรลงไป
ชีวิตของเราก็เป็นไปตามสิ่งที่
บรรจุนั้น
ทุกวันนี้ เราเคยถามตัวเอง
บ้างไหมว่า เราบรรจุอะไร
ลงไปในห้องแห่งหัวใจของเราบ้าง
ความรู้ ความงมงาย
ความรัก ความโกรธ ความเกลียด
ความโลภ ความดี ความชั่ว
ความริษยา ความหน้าด้าน ความสะอาด ความสว่าง
ความสงบ หรือความตื่นรู้
ชีวิตจะเป็นอย่างไร
รุ่งโรจน์หรือร่วงโรย
ขึ้นสูงหรือลงต่ำ
สำคัญที่เราบรรจุอะไรลง
ไปในใจของเรานั่นเอง ...


Monday 8 September 2014

โน้ส อุดม ปะทะ Samsung GALAXY Note II ถ่ายทำโดย Sky Exits Films Production House Bangkok Thailand

เบื้องหลังโฆษณา โน้ส อุดม ปะทะ Samsung GALAXY Note II ถ่ายทำโดย Sky Exits Films Production House Bangkok Thailand

Wednesday 3 September 2014

Sailing Yacht EDEN ... Sailing to Phi Phi Island is a great way to get to this wonderful island. Trips นี้เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ สำหรับการถ่ายทำ สวรรค์ดีๆนี่เอง

Sailing Yacht EDEN ...

Sailing to Phi Phi Island is a great way to get to this wonderful island.

Trips นี้เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ สำหรับการถ่ายทำ สวรรค์ดีๆนี่เอง